วันอาทิตย์, เมษายน 25, 2564

สรรพคุณของฟ้าทะลายโจร

(เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัว โปรดอ่านเพื่อความบันเทิงนะครับ)

สรรพคุณของฟ้าทะลายโจร

          หลายๆ คนที่ได้ยินชื่อฟ้าทะลายโจรครั้งแรก คงนึกสงสัยเหมือนผมว่าต้นไม้อะไรชื่อแปลกหนักหนา และยิ่งลองได้ชิมรสชาติของใบหรือลำต้นเล็กๆ ที่ไม่ได้สูงมากมายประมาณแค่สองสามคืบเท่านั้น จะต้องจดจำความขมที่ติดปากไปอีกแสนนาน

ดอกฟ้าทะลายโจร
ดอกฟ้าทะลายโจร

         เหตุผลใดที่ทำให้ไม้ล้มลุกต้นนี้มาเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอีกครั้งก็เนื่องด้วยสรรพคุณที่มีอยู่ในตัวในการแก้ "ไข้หวัดใหญ่" อย่างได้ผล นอกจากนั้นยังสามารถแก้อาการท้องเสียแบบไม่มีตัวได้อย่างดีเยี่ยม เช่นโรคบิดไม่มีตัว แต่่สรรพคุณที่เด่นๆ มากๆ ของเค้าโดยรวมก็คือ "แก้การอักเสบ" ไม่ว่าจะเป็นการอักเสบภายในเช่นแผลในทางเดินลำไส้ แผลในปากและลำคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ ยกเว้นการอักเสบที่เกิดจากพวกแบคทีเรีย (มีอาการบวม เป็นหนอง) ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นแบบหลังนี้ควรไปพบแพทย์จะดีกว่า

 ดอกฟ้าทะลายโจร
 
         จะเป็นเพราะว่าสรรพคุณที่โดดเด่นในการแก้ "ไข้หวัดใหญ่"  ทำให้ชื่อ "ฟ้าทะลายโจร" ได้ถูกกล่าวถึงมากขึ้นในช่วงที่ทั่วโลกเกิดโรคอุบัติใหม่หรือที่เรียกว่า Covid-19 (โรคโควิด 19 คือโรคติดต่อซึ่งเกิดจากไวรัสโคโรนาชนิดที่มีการค้นพบล่าสุด ไวรัสและโรคอุบัติใหม่นี้ไม่เป็นที่รู้จักเลยก่อนที่จะมีการระบาดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนในเดือนธันวาคมปี 2019 : อ้างอิงจาก https://www.who.int/thailand/emergencies/novel-coronavirus-2019/q-a-on-covid-19 ) ทำให้หลายๆ ประเทศเริ่มตื่นตัว เพราะเป็นไข้หวัดที่ติดต่อจากคนสู่คนได้ง่ายและทำลายปอดให้เสียหายจนผู้ป่วยไม่สามารถหายใจได้เองและเสียชีวิต และในหลายประเทศก็ได้พยายามหาตัวยาภายในประเทศของตัวเองเพื่อมาป้องกันหรือยับยั้งการแพร่กระจายที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น 

ทำไมต้องเป็นฟ้าทะลายโจร

          สมุนไพรในประเทศไทยมีมากมายหลากหลายชนิด ซึ่งคนโบราณได้นำมาใช้กันอยู่ก่อนแล้ว แต่ในยุคปัจจุบันผืนป่าได้ถูกทำลายลงไปอย่างมากทำให้ตัวยาสมุนไพรบางชนิดเป็นของหายาก และบางชนิดเป็นต้นไม้เฉพาะถิ่น คือมีเฉพาะภาคใต้ หรือมีเฉพาะภาคเหนือ อีกทั้งบางครั้งการเรียกชื่อของแต่ละภูมิภาคยังแตกต่างกันไป ถ้าไม่ได้เห็นลักษณะต้น อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นคนละชนิดกัน อีกทั้งองค์ความรู้ของเราก็ไม่ค่อยได้ถ่ายทอดสืบต่อกันมามากมาย อีกทั้งสิ่งที่เราขาดก็คือการจดบันทึก และแม้ว่าจะมีการบันทึกสมุนไพรหรือตัวยาชนิดนั้นแทบทั้งหมดก็ไม่ได้บอก "วิธีการนำมาใช้" 

           ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้สมุนไพรไทยใช้ไม่ได้ผล เพราะบางตัวยาหมอยาแผนโบราณจะรู้วิธีการนำมาใช้ เช่นตัวยาบางตัวต้องนำมาคั่วเพื่อให้พิษบางตัวถูกความร้อนและสลายไปก่อน หากเรานำสมุนไพรชนิดนั้นมาทำการต้มเลย ก็อาจทำให้ประโยชน์ที่จะเกิด กลายเป็นโทษไป หรือตัวยาบางชนิดต้องนำมาต้มด้วยตัวยาสมุนไพรอื่นก่อนเพื่อเป็นการแก้พิษกัน เหมือนกับที่เราสามารถลดความขมของบอระเพ็ดได้ด้วยการกินมะเขือพวงก่อน นอกจากนี้สมุนไพรบางตัวจะออกฤทธิ์ได้ดีเมื่อนำมาทำยาดองเหล้า เพราะสารที่เป็นประโยชน์จะละลายได้ดีในแอลกฮอลล์มากกว่าน้ำธรรมดา สิ่งเหล่านี้ทำให้ยาไทยเสื่อมคุณค่าลง ไม่ใช่เพราะว่าเราใช้ไม่ได้ผลแต่เราใช้ "ไม่ถูกวิธี" ต่างหาก

ฝักฟ้าทะลายโจร
ฝักฟ้าทะลายโจร

          ด้วยเหตุผลดังกล่าวมาแล้ว ยาแก้ไข้หวัดใหญ่นั้นมีหลากหลายตัวยาและอาจจะได้ผลดีกว่าสรรพคุณของฟ้าทะลายโจร แต่ฟ้าทะลายโจรนั้นขยายพันธุ์ได้ง่าย ปลูกได้แทบทุกพื้นที่ ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวน้อย อีกทั้งวิธีการนำไปใช้ไม่ค่อยยุ่งยากและในพื้นที่จำกัดเราสามารถปลูกได้ในปริมาณจำนวนมากและที่สำคัญยังมีงานวิจัยรองรับในระดับหนึ่ง 

หลักในการใช้ยาฟ้าทะลายโจร

          หากต้องกายใช้ยาสมุนไพรชนิดนี้ ผมแนะนำให้ดูวันหมดอายุก่อน เพราะสมุนไพรที่มีส่วนผสมของพวกใบไม้ จะให้สารสำคัญที่ดีประมาณ 6 เดือน ถึงประมาณหนึ่งปี และหากคุณต้องการรักษาการอักเสบในช่องปาก ควรจะนำใบสดมาต้มแล้วดื่มขณะยาอุ่นจะดีกว่า เพราะจะได้ฆ่าเชื้อที่อยู่ในปากและลำคอได้ดีกว่าการทานเป็นเม็ดเนื่องจากสรรพคุณจะไม่ได้ผ่านจุดที่เป็นสาเหตุของโรคเลย  ต้องผ่านการย่อยเสียก่อนค่อยถูกดูดซึมประสิทธิภาพในการรักษาก็จะน้อยลงไป 

          ส่วนหากใครต้องการทานเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ก็ขอให้ศึกษาการใช้จากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือและใช้ให้ถูกวิธี เพราะยาดีๆ ไม่จำเป็นต้องหาซื้อจากต่างประเทศเสมอไป นอกจากนี้อยากให้ทดลองใช้ดูก่อนเพราะร่างกายแต่ละคนแตกต่างกัน ถ้าหากเกิดอาการแพ้ให้รีบหยุดใช้ยา เช่น ตัวบวม เป็นผดผื่นคัน และที่สำคัญอย่าใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้เกิดพิษในร่างกาย หาก 2 - 3 วันยังอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน      

*ย้ำอีกครั้ง โปรดอ่านเพื่อความบันเทิง หากจะมีสาระก็ขอให้เลือกเฟ้นอย่างมีสติโดยยึดหลัก "กาลามสูตร  10 ข้อ" ดังที่พุทธองค์ได้เคยทรงตรัสเอาไว้*

 

วันเสาร์, เมษายน 24, 2564

 บอระเพ็ดยาขมของคนไทย

เถาบอระเพ็ด
เถาบอระเพ็ด

        หลายคนคงเคยได้ยินที่เราชอบพูดติดปากกันมาว่า "หวานเป็นลม ขมเป็นยา" นึกถึงคำๆ นี้ ส่วนใหญ่ชื่อบอระเพ็ดมักจะผุดขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ของใครหลายๆ คน แต่สำหรับยุคใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะรู้จักแต่ "หวานเป็นลม ขมเป็นคนพาหวานไปหาหมอ" ก็แล้วแต่ความเปลี่ยนแปลงของข้อความ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือ "ขมเป็นบอระเพ็ด" สำหรับสมุนไพรที่มีรสขมและทำให้เราจำได้ เท่าที่ผมนึกถึงได้ตอนนี้มีสองชนิด นั่นคือ บอระเพ็ดกับฟ้าทะลายโจร ซึ่งแบบหลังผมค่อนข้างคิดว่ามันขมกว่าบอระเพ็ดและติดปากนานกว่า ในโรงเรียนต่างจังหวัดสมัยก่อนยังมีการลงโทษให้อมบอระเพ็ดหากใครทำผิด ทำให้หลายๆ คนขยาดกับการต้องอมของขม ซึ่งในปัจจุบันสิ่งที่แก้ความขมของบอระเพ็ดให้น้อยลงไปก็คือ มะเขือพวง โดยการกินมะเขือพวงก่อนแล้วค่อยเคี้ยวบอระเพ็ด แต่ความรู้ตอนนี้ก็คงไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขความขมในอดีตได้อีกแล้ว

ลักษณะใบของต้นบอระเพ็ด

บอระเพ็ดสมุนไพรฤทธิ์เย็น

         นอกจากความขมที่ดูเหมือนไม่มีประโยชน์อะไรแล้วนอกจากทำให้หลาบจำ แต่ใครจะรู้ว่าประโยชน์ของบอระเพ็ดนั้นมีความขมที่ช่วยดับพิษร้อน เช่น พิษจากไข้ได้ดี ในสรรพคุณของยาสมุนไพรไทยบอระเพ็ดมีรสขมเย็น และยังมีเรื่องเล่าอีกว่าเป็นยาอายุวัฒนะ หากเราได้อ่านประวัฒิพระเกจิอาจารย์ในสมัยก่อน ท่านมักจะเคี้ยวบอระเพ็ดเป็นประจำ หากใครตัวร้อน เป็นไข้ หากสามารถหาบอระเพ็ดได้หรือสามารถหามาปลูกได้แนะนำให้ลองตัดมาต้มแล้วดื่มน้ำดู ความร้อนจะลดลง สำหรับยาไทยส่วนใหญ่ถ้าเป็นยาต้มมักจะต้มน้ำสามส่วนให้เหลือเพียงหนึ่งส่วน และใส่เพียงท่วมตัวยา ขนาดการดื่มนั้นแล้วแต่ว่าคนไข้อายุเท่าไร น้ำหนักและส่วนสูงเท่าใด และธาตุแต่ละคนเป็นอย่างไร แต่ถ้าไม่ได้เจาะลึกขนาดนั้นก็แนะนำให้ใช้ประมาณหนึ่งรอบศรีษะ คือใช้เถาพันรอบศรีษะของคนป่วย ได้หนึ่งรอบเท่าใดให้ตัดและนำมาต้มเท่านั้น และดื่มเพียงแต่น้อยๆ ก่อน ถ้าอาการดีขึ้นให้ดื่มทุกๆ 4 ชั่วโมง เพราะยาสมุนไพรส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์ค่อนข้างช้าเพราะประกอบด้วยส่วนประกอบทางตัวยาหลายอย่าง ไม่ได้สกัดเป็นยาเดี่ยวเหมือนยาฝรั่ง แต่ข้อดีก็คือ พืชสมุนไพรนั้นได้มาจากธรรมชาติ ผลข้างเคียงต่ออวัยวะภายในของเราจะน้อยกว่าหรือแทบไม่มีเลย (หากต้องการใช้เพื่อเป็นยา แนะนำให้ศึกษาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนหลาย ๆ  แหล่ง)  

บอระเพ็ดมีกี่ชนิด

         บอระเพ็ดที่เราเห็นส่วนใหญ่จะเป็นตะปุ่มตะป่ำ เลื้อยพันต้นไม้ใหญ่ เถาบอระเพ็ดชนิดนี้โบราณเรียกบอระเพ็ดตัวเมีย ส่วนอีกชนิดนึงต้นและใบจะคล้ายคลึงกันแต่จะไม่มีตะปุ่มตะป่ำโบราณเรียกบอระเพ็ดตัวผู้หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาชิงช้าชาลี ทางสรรพคุณยาใช้แทนกันได้ แต่ฤทธิ์ของตัวผู้จะน้อยกว่าทำให้ต้องใช้ในปริมาณที่มากกว่าหากต้องการใช้ในทางสมุนไพร 

ยอดอ่อนของต้นบอระเพ็ด
ยอดอ่อนของต้นบอระเพ็ด

อนาคตของบอระเพ็ด

         นับวันป่าเมืองไทยยิ่งลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จากของป่ากลายเป็นของหายาก แล้ววันหนึ่งก็อาจจะเลือนหายไปเหลือเพียงแต่ชื่อเท่าน้้น บอระเพ็ดอาจจะเหลือเพียงแค่ชื่อที่ไม่มีใครรู้จักหน้าค่าตา และความขมที่ไม่มีใครนึกออก ยาสมุนไพรไทยไม่ได้ช่วยชีวิตเราเท่านั้นแต่เมื่อเราได้ใช้และรู้จักอย่างจริงจัง เราจะเริ่มอนุรักษ์และช่วยกันแพร่พันธุ์ออกไป เพราะเรารู้แล้วว่ามันมีประโยชน์อย่างไร 

ต้นบอระเพ็ด
 ต้นบอระเพ็ด
 
         ต้นไม้ต่างๆ อยู่คู่กับโลกนี้มานานก่อนพวกเราเกิดและจะอยู่ต่อไปอีกแสนนานหลังจากเราหายจากโลกนี้ไป สิ่งมีชีวิตที่ดำรงเผ่าพันธุ์มาได้นานขนาดนี้ ผ่านร้อนหนาว ผ่านภัยพิบัติต่างๆ และยังคงขยายพันธุ์ได้นับว่าไม่ธรรมดา น่าจะมีอะไรที่พิเศษ แล้วพวกเราจะไม่รักษาของพิเศษแบบนี้เก็บไว้ให้ลูกหลานเราได้รับรู้และได้เห็นต่อไปในอนาคตเหรืออย่างไร...

 

Pages